หน้าแรก บทความสาระ
ยุติการฆ่าและความคิดที่จะฆ่า ก่อนจะพากันตกเหว โดย อาจารย์ชำนาญ จันทร์เรือง
อาจารย์ชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการอิสระ อาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัย
4 กุมภาพันธ์ 2550 23:01 น.
 
หรือปืนระเบิดเท่านั้น ครองโลก
       มนุษย์ร่วมทุกข์ทะเลโศก ไม่สิ้น
       วนเวียนคลื่นวิปโยค หยุดคลั่ง ดังฤา
       ตายจ่อมเจ็บแด่วดิ้น ดิ่งห้วงมหันต์ภัยฯ
       ปืนระเบิดดุจเทพเจ้า มหิทธิฤทธิ์ ดังฤา
       ทาสถ่อยอสรพิษ กราบไหว้
       อนารยะอมนุษย์ชนิด สนองเน่า นิยมนา
       งั่งคลั่งสั่งโลกให้ หม่นไหม้ทุกสมัยฯ
       แหลกเหลวสยามอยู่ได้ เกษมสันต์ ดังฤา
       การฆ่าใช่สวรรค์ หยุดได้
       เมตตาเท่านั้นพลัน สันติสุข เสมอแล
       โลกเลิศประเสริฐไซร้ มุ่งไว้มนุษยธรรมฯ
       โอมนุษยชาติพึ่งฟ้า เกษมสุข เทอญท่าน
       ผึงแผ่เมตตาทุก หย่อมหญ้า
       อโหสิกรรมทุรยุคปลุก โลกตื่น ชื่นใจ
       ไหวสู่ประเสริฐหล้า เลิศล้ำวิเศษสมัยฯ
       โลกจงเลิศเปี่ยมท้น ธาตุสวรรค์ เทอญท่าน
       เลิกฆ่าอมหิตมหันต์ โหดร้าย
       สันติสุขตลอดกัลป์ อนันตเสน่ห์ ภพเอย
       มนุษย์สู่ประเสริฐไซร้ โลกซึ้งมนุษยธรรมฯ
       
       อังคาร กัลยาณพงศ์ / การฆ่ามิใช่สวรรค์ จงหยุดได้
       

       บทประพันธ์ข้างต้นเป็นของมหากวีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ที่ผมอ่านพบตามเว็บบอร์ดในอินเตอร์เน็ตที่มีผู้นำมาโพสต์ไว้โดยไม่ได้ระบุแหล่งที่มาแต่อย่างใด ผมอ่านแล้วชอบมากเพราะตรงกับความตั้งใจของผมที่จะเขียนถึงเรื่องนี้อยู่พอดี จึงขอยกมาเป็นบทนำของบทความนี้
       
       ท่ามกลางสภาวะบ้านเมืองที่กำลังสับสนวุ่นวายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทยอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์การฆ่ารายวันในภาคใต้ การวางระเบิดในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา การเผาโรงเรียนที่เดิมมีเฉพาะในสามจังหวัดภาคใต้แต่ กลับลุกลามไปทั่วประเทศ ทั้งภาคเหนือและอีสาน สถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเสมือนตัวเร่งให้ไฟแห่งการฆ่าลุกโชนพร้อมที่จะเผาผลาญผู้คนที่กำลังหน้ามืดตามัวอยู่ในขณะนี้
       
       ความคิดที่มาจากสันดานดิบของปุถุชนตั้งแต่สมัยบรรพกาลมีอยู่เสมอว่าเลือดต้องล้างด้วยเลือด ชีวิตต้องทดแทนด้วยชีวิต ฯลฯ เป็นแรงผลักดันให้รัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องใช้ความรุนแรง ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้าบางรูปบางคณะยังออกมาเรียกร้องให้ใช้ความเด็ดขาดเข้าแก้ไขปัญหา ซึ่งก็หมายถึงการเรียกร้องให้มีการฆ่า ฆ่า ฆ่า แล้วก็ฆ่า นั่นเอง โดยลืมไปว่าการทำร้ายทำลายชีวิตผู้อื่นนั้น ไม่ว่าศาสนาใดใดต่างก็เห็นตรงกันว่าเป็นบาปที่พึงละเว้น
       
       ในสถานการณ์ปัจจุบันที่สังคมไทยเราแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ต่างฝ่ายต่างก็โทษกันไปมา ฝ่ายอำนาจใหม่ก็โทษฝ่ายอำนาจเก่า ฝ่ายอำนาจเก่าก็โทษฝ่ายอำนาจใหม่ ไม่เว้นแม้แต่ในแวดวงนักวิชาการก็ทะเลาะกันเองว่าอีกฝ่ายขายตัวขายวิญญาณบ้าง หรือว่าอีกฝ่ายมัวแต่กอดตำราไม่เงยหน้ามองดูโลกแห่งความเป็นจริงบ้าง ฯลฯ โดยมองว่าผู้ที่เห็นต่างจากตนเองนั้นคือศัตรูที่จะต้องประหัตประหารเสียให้สิ้นไปจากโลกนี้
       
       ความขัดแย้งต่างๆนี้ มีทั้งการปะทะกันด้วยวาจา จนถึงการปะทะกันทางความคิดในสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสื่ออินเตอร์เน็ต ต่างฝ่ายต่างก็โทษว่าอีกฝ่ายไม่รักชาติ ไม่ให้ความร่วมมือ และพร้อมที่จะใช้กำลังเข้าห้ำหั่นกันไม่ผิดกับสังคมในยุคสมัยหิน กระแสแห่งความเกลียดชังพวยพุ่งคุกรุ่นไปทั่วทุกหัวระแหง แม้แต่ในสื่อมวลชนบางแขนงถึงกับบอกว่าหากจับมือระเบิดป่วนกรุงได้ให้เอาระเบิดยัดปากให้ตายตกไปตามกันเสียด้วยซ้ำ
       
       สังคมไทยควรที่จะหยุดตั้งสติกลับมามองตัวเองได้แล้วว่าหากยังปล่อยให้ผู้คนในสังคมพากันกระเหี้ยนกระหือรือที่จะห้ำหั่นรบราฆ่าฟันกันดังเช่นทุกวันนี้ หายนะย่อมเป็นที่คาดหมายได้ในเบื้องหน้าอย่างแน่นอน
       
       ข้อเรียกร้องของผมมิได้เรียกร้องต่อเฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น ผมเรียกร้องต่อ ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ ไทยรักไทย ประชาธิปัตย์ โจรใต้ องค์กรศาสนาต่างๆฯลฯ เพราะผมไม่เชื่อว่าการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางความคิดหรือปัญหาทางการเมืองจะยุติได้ด้วยวิธีการตาต่อตาหรือฟันต่อฟัน
       
       ประมวล เพ็งจันทร์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้กล่าวไว้ในการสัมมนาเรื่อง “สันติภาพเป็นทางออกของสังคมไทยได้เพียงใด” เมื่อเร็วๆนี้ว่า “สันติวิธี และสันติภาพจะเป็นทางออกมากน้อยเพียงใด เราทุกคนต้องตั้งคำถามตรวจสอบตนเองว่า จาคะ เมตตา ปัญญา ยังเป็นสิ่งที่มีค่าเพียงพอที่เราจะยอมลำบากเพื่อหวงแหนรักษาเอาไว้ หรือกล้าที่จะแลกกับความเชื่ออะไรบางอย่างเกี่ยวกับความเป็นไทยหรือไม่ และตนอยากจะชวนให้ทุกคนคิดและตัดสินใจว่าเราจะก้าวไปที่ขอบหรือถอยออกมา”
       

       ฟังดูเหมือนว่าจะทำได้ยาก แต่เราก็ต้องพยายามที่จะกระทำ เพราะอย่าลืมว่าหากสังคมเราก้าวเลยจากจุดนี้ไปแล้ว ยากที่จะมีองค์กรใดที่จะสามารถสร้างอาณัติให้ทุกคนหันหน้าเข้าหากันได้ เมื่อถึงจุดนั้นสังคมก็จะเป็นสังคมที่ไม่พึงปรารถนาของทุกคน
       
       ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องหาอาณัติร่วมกันเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะหยุดคิดพิจารณากันอย่างจริงจังกันเสียที โดยเราเริ่มต้นกันใหม่ ลืมอดีตที่ขุ่นข้องหมองใจกันเสีย ให้อภัยซึ่งกันและกันแล้วถอยออกมาจากขอบเหวแห่งความหายนะนี้เสีย
       
       ยังไม่สายเกินไปหรอกครับที่เราจะยุติการฆ่าและความคิดที่จะฆ่า ก่อนจะพากันตกเหวกันทั้งหมด
       
       -----------------------------


 
 
หลักความเสมอภาค
องค์กรอิสระ : ความสำคัญต่อการปฏิรูปการเมืองและการปฏิรูประบบราชการ โดย คุณนพดล เฮงเจริญ
ปัญหาของการนำนโยบายสาธารณะไปปฏิบัติในประเทศไทย
การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน : ผลในทางปฏิบัติ เมื่อครบรอบหกปีของการปฏิรูปการเมือง
หลักนิติรัฐและหลักนิติธรรม
   
 
 
 
PAYS DE BREST : COOPERER VOLONTAIREMENT AU SERVICE DU TERRITOIRE
La violence internationale : un changement de paradigme
การลงทะเบียนเพื่อรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในประเทศไทย: มิติด้านกฎหมายและเทคโนโลยี
Tensions dans le cyber espace humanitaire au sujet des logos et des embl?mes
คุณูปการของศาสตราจารย์พิเศษ ชัยวัฒน์ วงศ์วัฒนศานต์ ต่อการพัฒนากฎหมายปกครองและกระบวนการยุติธรรมทางปกครอง : งานที่ได้ดำเนินการไว้ให้แล้วและงานที่ยังรอการสานต่อ
การเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม
ยาแก้โรคคอร์รัปชันยุคใหม่
สหพันธรัฐ สมาพันธรัฐ คืออะไร
มองอินโด มองไทย ในเรื่องการกระจายอำนาจ
การฟ้องปิดปาก
 
 
 
 
     

www.public-law.net ยินดีรับพิจารณาบทความด้านกฎหมายมหาชน โดยผู้สนใจสามารถส่งบทความผ่านทาง wmpublaw@public-law.net
ในรูปแบบของเอกสาร microsoft word (*.doc) เอกสาร text ข้อความล้วน (*.txt)ลิขสิทธิ์และความรับผิดตามกฎหมายของบทความที่ได้รับการเผยแพร่ผ่านทาง www.public-law.net นั้นเป็นของผู้เขียน ขอสงวนสิทธิ์ในการนำบทความที่ได้รับการเผยแพร่ไปจัดพิมพ์รวมเล่มเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้สนใจต่อไป ข้อมูลทั้งหมดที่ปรากฏใน website นี้ยังมิใช่ข้อมูลที่เป็นทางการ หากต้องการอ้างอิง โปรดตรวจสอบรายละเอียดจากแหล่งที่มาของข้อมูลนั้น

จำนวนผู้เข้าชมเวบ นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2544